ประโยชน์ของพริกแกง แกงเขียวหวาน มีอะไรบ้าง

0
2839

คนไทยคงคุ้นเคยกับอาหารจำพวกแกงกะทิกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตาทวดกันแล้ว เรียกว่าในหนึ่งสัปดาห์จะต้องแกงกะทิอยูในอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง แกงที่ใช่เพียงคนไทยชื่นชอบ ชาวต่างชาติก็นิยมชมชอบกันเสีย ก็คือ “ แกงเขียวหวาน ” นั่นเองคะ

แกงเขียวหวาน
ภาพประกอบจาก pixabay.com

แกงเขียวหวาน แท้จริงแล้วชื่อนั้นมีความหมายว่าเป็นแกงที่มีสีเขียวแบบหงาน สีเขียวนวล เขียวสะอาด โดยการนำพริกแกงมาเคี่ยวกับกะทิ จนแตกมัน แกงที่ได้จะมีสีเขียว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อแกงคะ เราสามารถปรุงแต่งแกงเขียวหวานด้วยเนื้อสัตว์หลายชนิด ไม่ว่า ไก่ หมู เนื้อ ปลา ปู เป็นต้น

ความหอมของแกงเขียวว่านั้นอยู่น้ำพริกแกงเขียวหวานคะ ส่วนผสมก็มีดังนี้ กระเทียม หอมแดง ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด รากผักชี ลูกผักชีคั่วบด ยี่หร่าคั่วบด พริกขี้หนูสวน กะปิ เกลือ โดยการใส่ผิวมะกรูดลงไปตำก่อน ให้น้ำมันที่อยู่ในผิวออกมา แล้วใส่ตามด้วยตะไคร้ ข่า โขลกพอประมาณ แล้วใส่สิ่งที่เหลือตามลงไป จบท้ายน้ำพริกแกงเขียวหวานด้วยกะปิอย่างดี โขลกทุกอย่างให้ละเอียด แต่แม่บ้านยุคสมัยนี้สามารถนำพริกแกงไปปั่นด้วยเครื่องปั่นได้ ก็จะได้พริกแกงที่ละเอียดเร็ว  แต่อาจจะขาดกลิ่นของผิวมะกรูดที่จะต้องตำให้เกิดน้ำมันเพียงเท่านั้น

ส่วนผสมของพริกแกงเขียวหวานล้วนเป็นสมุนไพร มีประโยชน์ดังนี้

1. หอมแดง ที่เป็นพืชที่มีรสฉุน มีคุณสมบัติช่วยเรื่องท้องอืดขับลม ช่วยในเรื่องการย่อยอาหาร แก้อาการบวมน้ำ ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการบวมน้ำ ขับพยาธิ ให้ร่างกายอบอุ่น หอมแดงยังมีสารเคออร์ซิติน และสารจำกัดำพวก สารเคอร์ซิดิน สาสารฟลาโวนอยด์ หอมแดงมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรค ใช้ลดไข้ รักษาแผล ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการอุดตั้นของหลอดหลอด ช่วยให้การหมุนเวียของเลือดดีขึ้น ลดไขมันในเส้นเลือด หอมแดงยังช่วยให้เจริญอาหารอีกด้วย

2. ผิวมะกรูด คือส่วนที่เป็นเปลือกของลูกมะกรูดนั่นเองคะ มีน้ำมันระเหย มีรสปร่าหอมร้อน รสขมมีคุณสมบัติเป็นยา ในตำรายาไทย จัดให้ผิวมะกรูดอยู่ใน”เปลือกส้ม 8 ประการ” ประกอบด้วย ผิวส้มเขียวหวาน ผิวส้มจีน ผิวส้มซ่า ผิวส้มโอ ผิวส้มตรังกานู ผิวมะงั่ว ผิวมะนายหรือผิวส้มโอมือ มีสรรพคุณแก้ลงกองละเอียวด กองหยาบ แก้เสมหะ นอจากนี้ผิวมะกรูดยังขับลมในลำไส้ ขับผายลม แก้แน่น ขับระดู เป็นยาบำรุงหัวใจ

3. ข่า เป็นพืชที่มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ให้รสชาติเผ็ดร้อน มีกลิ่นหอม มีฤทธิ์เป็นยา ช่วยบรรเท่าอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ รวมทั้งอาการลดความเจ็บปวดเรื้อรัง รักษากลากเกลื้อนหรือโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อรา และจากงานวิจัยพบว่าสารสกัดจากเหง่าขามีสารที่สามารถต้านมะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งเม็ดเลือด มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลลำไส้ได้

4. ตะไคร้ เป็นพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหาร อย่าง วิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก มีคุณสมบัติในเรื่องการช่วยขับเหงือ เป็นยาบำรุงธาตุไฟให้เจริญ ช่วยแก้อาการเบื่ออาหาร แก้ลมใบ แก้อาการกษัยเส้น แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม แก้ลมอัมพาต ช่วยขับน้ำดีมาย่อยอาหาร

5. รากผักชี อุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนถึง 36 เปอร์เซนต์ของราก สารลูทีนและซีแซนทีน วิตามินเอ วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 รากผักชีมีฤทธิ์ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ และยังช่วยขับปัสสาวะ

6. ผลยี่หร่า มีกลิ่นแรง รสร้อนเผ็ด  มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องการขับลม แก้ท้องอืด ช่วยอาหาร ขับเสมหะ บำรุงระบบปราสาท นิยมนำไปตากแห้ง เพื่อใช้เป็นเครื่องเทศ จะช่วยให้อาหารมีกลิ่นหอม ดับกลิ่นคาวได้เป็นอย่างดี

ถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาของคนไทย ที่ใช้สมุนไพรมาทำเป็นส่วนผสมของเครื่องแกง ทำให้เราได้รับสมุนไพรอย่างไม่รู้ตัวกันเลยคะ

ข้อมูลอ้างอิง

พริกแกเขียวหวาน: patampatan.com
สรรพคุณของหอมแดง: storylog.co
มะกรูด(ผิวผล): thaicrudedrug.com
ประโยชน์และสรรพคุณของ ตะไคร้ สุดยอดพืชมหัศจรรย์ ช่วยรักษาอาการและต้านทานโรค อย่างไม่น่าเชื่อ!!: tnews.co.th
ยี่หร่า สรรพคุณ เมล็ดยี่หร่า ประโยชน์ของใบยี่หร่: karatbarsaec.com

Next articleวิธีกำจัดปลวก ให้ไกลจากบ้านเรา