จะเดินทางไปไหนมาไหนในยุคนี้แสนจะสะดวกสบาย ไม่ต้องใช้เวลาเป็นวันๆ เพราะเรามีรถยนต์นั้นเอง รถยนต์ถือว่าเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกของคนยุคใหม่ ที่จะมองว่าจำเป็นก็ได้ หรือจะมองว่าไม่จำเป็นก็ได้เพราะประเทศไทยเองก็มีระบบการขนส่งหลายรูปแบบรองรับอยู่แล้ว เมื่อมีรถยนต์เป็นของตัวเองแล้ว ก็ต้องทำประกันสำหรับรถยนตร์ แต่เชื่อไหมคะว่าบางคนขับรถมาเป็นหลายสิบปียังไม่เคยได้เคลมประกันเลย เอาเป็นว่าสำหรับคนที่มีรถยนตร์ควรจะมีความรู้เรื่องประกันรถยนต์ไว้บ้างนะคะ
การเคลมประกันคือแจ้งบริษัทประกันรถยนตร์ที่เราทำสัญญาด้วยว่าเกิดอุบัติเหตุกับรถยนต์ ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิดก็ตาม สำหรับผู้ที่ทำประกันรถยนต์ประเภทที่ 1 2+ และ 3+ ไม่ว่าจะคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิดก็จะได้รับใบเคลมประกันจากบริษัทประกันภัยรถยนต์ แต่หากคุณทำประกันภัยรถยนต์ประเภท 2 และ 3 นั้น คุณจะได้รับใบเคลมประกันก็ต่อเมื่อคุณเป็นฝ่ายถูกเท่านั้น ซึ่งใบเคลมจะได้รับจากบริษัทประกันภัยรถยนต์ของคู่กรณี/ฝ่ายผิด
การเคลมประกันรถยนต์ มี 2 ประเภท
- เคลมสด คือการเคลมประกันภัยรถยนต์ที่พนักงานบริษัทประกันภัยรถยนต์ออกตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ผู้ขับขี่หรือคู่กรณีจะได้รับเอกสารในการติดต่อค่าเสียหายจากเจ้าหน้าที่บริษัท เพื่อนำไปติดต่อขอซ่อมที่อู่ในเครือบริษัทประกันภัยนั้นๆ
- เคลมแห้ง คือ การเคลประกันรถยนต์ที่ไม่มีพนักงงานออกตรวจสอบสถานที่จริง เช่น การเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย การไม่มีคู่กรณี
ขั้นตอนการเคลมประกันภัยรถยนต์
เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วควรตั้งสติ ค่อยๆเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพยายามจดจำรายละเอียดข้อมูลของคู่กรณี เช่น ทะเบียนรถ ประเภทของรถ สีรถ เพื่อในกรณีที่คู่กรณีหลบหนี
เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วให้โทรแจ้งบริษัทประกันทันที โดยแจ้ง เลขทะเบียนรถ หมายเลขกรมธรรม์ สถานที่เกิดอุบัติเหตุ วัน เวลา ที่เกิดอุบัติเหตุ เบอร์ติดต่อกลับ หลังจากนั้นก็ให้รอเจ้าหน้าที่บริษัทประกัน ณ บริเวณเกิดเหตุ ระหว่างรอท่านอาจจะถ่ายรูปบริเวณที่เกิดเหตุ สภาพรถที่ชนกันไว้เป็นหลักฐานไว้ก็ยิ่งดี ขณะที่รอไม่ควรเคลื่อนรถออกจากจุดเกิดเหตุ เว้นเสียแต่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดำเนินการและระบุชัดเจนว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด และจำเป็นต้องมีหลักฐานเป็นเอกสารยอมรับผิดชัดเจน จึงสามารถเคลื่อนย้ายรถยนต์ออกจากจุดเกิดเหตุได้ เพื่อไม่ให้การจารจลติดขัด
ข้อควรระวัง: การเคลื่อนย้ายรถระหว่างการรอเจ้าหน้าที่บริษัทประกัน อาจทำให้การเคลมประกันภัยรถยนต์ยากขึ้น และอาจเกิดความเข้าใจผิด สับสน ระหว่างคู่กรณีเองอีกด้วยคะ
เมื่อเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยรถยนต์มาถึงสถานที่เกิดเหตุ และทำการตกลงกับคู่กรณีเรียบร้อย มีการถ่ายรูปรถไว้เป็นหลักฐานสำหรับการนำรถเข้าซ้อมอู่ เจ้าหน้าที่จะออกเอกสารเคลมประกันให้กับเราเพื่อเอาไว้เป็นเลขอ้างอิงในการนำรถยนต์เข้าซ่อมที่ศูนย์รถยนต์ และอู่ซ่อมรถ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงในสัญญาประกันภัยรถยนต์
ข้อควรรู้: ใบเคลมหรือใบรับรองความเสียหาย เมื่อเกิดอุบัติเหตุใดๆก็ตาม จะมีอายุ 1 ปี นับตั้งแต่วันที่บริษัทประกันภัยออกเอกสารใบเคลมนี้
ข้อแนะนำ: หลังจากการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ควรนำรถยนต์ของท่านเข้าซ่อมให้เร็วที่สุด เพราะหากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจจะส่งผลต่อรถในส่วนใกล้เคียงได้ทำให้ท่านอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก นอกเหนือจากที่ได้แจ้งเคลมประกันภัยไว้คะ
ใครก็ไม่อยากจะให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับตนเองและรถยนต์ของตนเองกันทั้งนั้นคะ แต่ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุก็เป็นเหตุการณ์ที่เราไม่สามารถคาดเดาได้อยู่แล้ว การเคลมประกันจึงเป็นเรื่องควรรู้สำหรับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวคะ จงตะหนักไว้เลยนะคะว่า ยิ่งคุณเคลมประกันบ่อยมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งต้องจ่ายเบี้ยค่าประกันภัยรถยนต์มากขึ้นทุกปีคะ ขับขี่อย่างปลอดภัยไร้กังวล