โรคแพ้ภูมิตัวเอง (โรคพุ่มพวง) เมื่อภูมิคุ้มกันทำร้ายเรา

0
984

โรคพุ่มพวง” หรือ ” โรคแพ้ภูมิตัวเอง ” เป็นโรคที่ดังมากๆในช่วงเมื่อปี 2535 เนื่องจากการเสียชีวติของราชินีเพลงลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ด้วยโรคนี้ ทำให้คนหันมาสนใจโรคนดังกล่าวและอยากรู้ว่ามันคือโรคอะไรกันแน่ ร้ายแรงเพียงใด ทำไมรักษาไม่หาย ฯลฯ โรคพุ่มพวงแท้จริงนั้นก็คือ “โรคถูมิแพ้ตนเอง”นั้นเอง สำหรับผู้ป่วยโรคนี้พบได้น้อยมากอาจไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำไป แต่อุบัติการณ์การเกิดโรคในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 7-10 เท่าคะ

โรคแพ้ภูมิตัวเองภาพประกอบจาก: en.wikipedia.org

โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ โรคเอสแอลอี (Systemic Lupus Erythematosus-SLE) เป็นโรคที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันในร่างกายผิดปกติ ภูมิคุ้มกันนั้นมีหน้าที่ดักจับสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคที่เข้ามาในร่างกายไม่ให้ทำร้ายร่างกายของเรา แต่เมื่อภูมิคุ้มกันผิดปกติไป ไม่ทำหน้าที่ของตนเอง และยังสร้างออโต้แอนติบอดี้ขึ้นมาทำร้ายร่างกายตนเองอีกด้วย โดยต้านหลอดเลือดและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของอวัยวะต่างๆทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง (ชนิดไม่ใช่จาการติดเชื้อ) ส่งผลให้อวัยวะนั้นทำงานผิดปกติไปจากเดิม การอักเสบหรือการผิดปกติอาจเกิดขึ้นกับอวัยวะใดอวัยวะหนึ่งก็ได้ หรือ เกิดขึ้นพร้อมกันหลายระบบก็เป็นไปได้ การอักเสบที่พบบ่อยมักเกิดตาม ไขข้อ ผิวหนัง ไต ระบบเลือด หัวใจ ปอด ระบบประสาท เป็นต้น

โรคแพ้ภูมิตัวเองยังเป็นโรคที่ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่ชัดเจนได้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะป้องกันหรือทราบได้ว่าโรคนี้จะเกิดขึ้นกับใคร แต่เมื่อมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันทีจะดีที่สุด จากการศึกษาผู้ที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองพบว่า อาจเกิดจาก พันธุกรรม ภาวะติดเชื้อ ถูกแสงแดดจัดต่อเนื่อง การตั้งครรภ์ การแพ้อาหารบางชนิด สารเคมี ยา และฮอร์โมนเพศหญิง

อาการของโรคแพ้ภูมิตัวเอง นั้นจะมีอาการที่แตกต่างกันไปตามระบบหรืออวัยวะที่เกิดโรค โดยอาการแรกเริ่มเป็นเพียง รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย มีไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดข้อ แต่หากอาการรุนแรงขึ้นก็จะมีอาการแสดงที่เกิดกับอวัยวะที่ถูกทำลาย เช่น หากเกิดขึ้นที่ผิวหนังจะพบผื่นแดงบนใบหน้า ตั้งแต่สันจมูกถึงโหนกแก้ม, แผลในปาก, คันเฉพาะตอนโดนแสงแดด , ผมร่วงมากกว่าปกติ หากเกิดที่ข้อและกล้ามเนื้อ จะมีอาการปวดตามข้อ อาจบวมแดงหรือบิดเบี้ยวผิดรูป นอกจากนี้ยังมีอาการปวดหรืออักเสบของกล้ามเนื้อและเอ็น หากเกิดขึ้นที่ระบบประสาท ก็จะมีอาการสมองอักเสบ ชัก หลงลืม คลุ้มคลั่ง อาการคล้ายคนบ้า หรือหากเกิดขึ้นกับไต หัวใจ ระบบเลือด ก็จะมีอาการแตกต่างกันไปนะคะ

สำหรับการรักษานั้น แพทย์จะทำการรักษาตามอาการที่เกิดขึ้นตามส่วนต่างๆของร่างกาย มุ่งไปที่การบรรเทาอากรเจ็บปวด และลดการอักเสบ โดยใช้ยาฏิชีวนะ ยากดภูมิต้านทานร่างกาย ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด เป็นต้น แต่ไม่สามารถรักษาโรคให้หายไปได้ ผู้ป่วยต้องรับการดูแลและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันนี้วิทยาการทางการแพทย์พัฒนาไปอย่างมาก ทำให้เราสามารถควบคุมโรคให้ไม่รุนแรงได้นานๆขึ้น โดยปฏิบัติตนตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัดและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้อาการกำเริบได้

โรคแพ้ภูมิตัวเอง ไม่ใช่โรคติดต่อ แค่เป็นโรคเรื้อรัง ที่ต้องทำการรักษอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมอาการของโรค บางคนอาจต้องทานยานไปตลอดชีวิตก็ได้และได้รับผลข้างเคียงจากยาที่ทานตามมา ด้วยเหตุนี้ผู้ป่วยจำเป็นต้องเอาใจใส่ดูแลตนอย่างมาก รักษาสุขอนามัยพื้นฐานเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ ออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงสามารถต่อสู้กับโรคได้ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เพียงพอ ไม่มากจนทำให้เกิดโรคอ้วน และหันมาทำจิตใจให้เบิกบาน แจ่มใส ลดความตึงเครียด วิตกกังวล ก็สามารถทำให้เราอยู่ได้อย่างมีความสุขกับโรคภัยไข้เจ็บได้คะ

Previous articleรับมือกับผื่น..แพ้นมวัว (เด็กแพ้นมวัว)
Next articleรักษาโรคด้วยวิธี ฝังเข็ม สร้างสมดุลในร่างกายให้ทำงานเป็นปกติ